โพสทั้งหมดของ: Indulas Kan

Indulas Kan

Indulas Kan

นักวิทย์ขี้เมาผู้หลงใหลรสสุราดั่งมอดรักไม้ นิยมชมชอบการเดินทางด้วยการโบกรถไปหาเบียร์กินตามสถานที่ต่างๆและวาดภาพบันทึกความประทับใจระหว่างเมา พบรักกับดนตรีแจ๊สเก่า สไตล์ Big Band นับถือ Frank Sinatra เป็นพระเจ้า ปัจจุบันเรียนต่อปริญญาเอกและทำงานวิจัยด้าน Biophysicsอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยแห่งหนึ่งย่านศาลายา

https://www.facebook.com/indulas

ฉายเดี่ยวพันลี้ ขี้เมาพเนจร

ปกติผมเป็นคนชอบเดินทางแบคแพคคนเดียว ผมเดินทางไปถึงเกาะช้างตั้งแต่วันที่ 27 ธค 2013 โดยเป้าหมายเดียวของการมาทริปครั้งนี้คือ “เมาครับ” (ฮา) ด้วยความที่ฉายเดี่ยวแบบ Lonesome guy สถานที่ที่ผมเลือกที่จะไปหาที่พักจึงเป็นหาดๆ หนึ่งที่ชื่อ Lonely beach ซึ่งหาดนี้ แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทยเลยครับถึงห้องพักแถวๆนี้จะถูก และเต็มไปด้วยดงร้านเหล้า สวรรค์ของเหล่าจอมยุทธสายเมาก็ตาม แต่ห้องพักแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นห้องเล็กๆ ไม่มีแอร์ มีแต่ที่นอนกับมุ้ง ส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำรวม เลยทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ไม่นิยม มีแต่ backpacker ชาวต่างชาติ เดินหาห้องกันทั่วไปหมด…
image_1_1image_1ผมเดินหาห้องอยู่นาน แต่แทบไม่มีที่พักเหลืออยู่เลย ที่เหลือก็โก่งราคากันซะสนุกสนาน ผมเหนื่อยมากเลยมานั่งแวะที่ร้านๆนึงชื่อ Stone Free Bar ซึ่งเป็นร้านอาหาร มีบาร์เหล้า อารมณ์การแต่งร้านออกแนว country น่าอยู่มาก ที่นี่มีห้องพักให้เช่าด้วย ราคาคืนละ 200 (!?) แม่เจ้า! ราคาที่พักคืนละ 200 ที่เกาะช้างช่วง high season! แต่ที่พักเต็มหมด (แหง่ว~) ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงและ เมาแก้ปัญหามันซะเลย (ฮา) ผมเมาอยู่ที่นั่นพักนึง ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปนอนไหน ผมเลยหน้าด้านไปขอพี่เค้านอนที่ร้านนั้นเลย เดี๋ยวผมจ่ายค่าที่พักให้ (คือนอนบนเก้าอี้นั่นล่ะ พอดีผมพกถุงนอนมา) พี่เค้าก็เลยสงสาร ให้ผมไปนอนที่ระเบียงบ้านแก 5555 มีฟูก มีมุ้งให้ คิดราคาคือละ 100 บาท ผมเลยมีที่ซุกหัวนอน 5555

1176181_618233604891333_834754928_n(ภาพ “ที่นอนพิเศษสำหรับนักเดินทางขี้เมา ราคาคืนละ100!”)

image_2image_3image_4image_5image_6image_7ผมอยู่ที่เกาะช้าง 5 วัน ทุกวันจะเดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ของเกาะ พอตกกลางคืนก็จะกลับมาเมาที่ Lonely Beach เพราะที่นี่มีจัดปาร์ตี้อาทิตย์ละ 7 วัน (สลับร้านกันไปเรื่อยๆ) แต่จะมีร้านหนึ่งที่ผมจะไปนั่งอุ่นเครื่องตอนหัวค่ำจนถึงประมาณ 5 ทุ่มเสมอ ชื่อ Ting Tong Bar ที่นี่ผมชอบมากครับ ยกพื้นไม้ขึ้นมา มีเบาะให้นั่งกับพื้น กรึ่มเมาฟังดนตรีสดแนว country และ reggae ผมสังเกตุได้ว่า พวกขี้เมาแถวนี้จะทำตัวเหมือน NPC ในเกมส์มาก คือสถานที่เดิม เวลาเดิม จะเจอพวกพี่แกนั่งกอดขวดอยู่จุดเดิมเสมอ (ฮา) ด้วยความที่มีอุดมการณ์ทางการเมาที่คล้ายกัน แม้มาจากต่างประเทศกัน ก็ไม่ใช่ปัญหา จนวันส่งท้ายปี เรารวมตัวกันได้เป็นแก๊งคนบ้าเมารั่ว ที่มีสมาชิก 7-8 คน(เพราะบางคนมันมาๆ ไปๆ) ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน (ทุกคนมาคนเดียวกันหมด สมชื่อ Lonely beach มาก เจอแต่พวกฉายเดี่ยว) เมาตั้งแต่ ประมาณ 1 ทุ่ม จนถึงประมาณ 9 โมงเช้า ฮากันสุดเหวี่ยง (ที่จริงมีรายละเอียดบ้าๆ ที่ผมไม่กล้าเล่าเยอะมาก 5555 เอาเป็นว่าจินตนาการถึงรายการ Jackass อะไรประมาณนั้น) เป็นทริปที่สุดเหวี่ยงมากครับ ประทับใจจริงๆ(ไม่เคยได้นอนก่อนตี 3 เลย)

ปล. ที่จริงมีอีกหลายรูปที่ผมวาดแต่เอามาให้ดูไม่นะครับ เพราะผมฉีกให้ชาวบ้านไปแล้ว (คือเวลาเมาแล้วจะวาดชาวบ้าน พอวาดเสร็จก็ฉีกไปให้เค้าเป็นที่ระลึก ผลที่เจอบ่อยๆ คือ มีเบียร์กินฟรีครับ 5555)

สเก็ตช์สวยเล่าเรื่องราวจากทาสรัก Lamy : Indulas Kan 3

ภาคต่อชุดที่สามผลงานจาก “ทาสรัก Lamy” นามว่า Indulas Kan ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หวนกลับมาให้ได้ชมกันอีกครั้งครับและแถมท้ายด้วยสเก็ตช์ลงสีน้ำที่สวยงามเป็นที่สุด อยากเห็นผลงานสีน้ำชุดต่อไปจริงๆ เลยครับ@hackhq


photo_10 photo_11 photo_12 photo_13 photo_14

1175358_552976754750352_1509714010_n

สเก็ตช์สวยเล่าเรื่องราวจากทาสรัก Lamy : Indulas Kan 2

มาตามกันต่อกับภาคสองของสเก็ตช์ลายเส้นสุดยอดของเขาคนนี้ “ทาสรัก Lamy” นาม Indulas Kan ทั้งรูปและเรื่องราวชวนอ่านจนไม่อยากให้จบเลยจริงๆ@hackhq


photo_6

photo_7

photo_8

photo_9

สเก็ตช์สวยเล่าเรื่องราวจากทาสรัก Lamy : Indulas Kan 1

ผลงานสเก็ตช์ชุดนี้เป็นของคุณ Indulas Kan ที่เคยฝากผลงานไว้ให้เราได้ตะลึง ทึ่ง กับลายเส้นที่สวยงามของเขาในตอน สาวก LAMY มือใหม่ คราวนี้เขากลับมาอีกครั้งกับสเก็ตช์ที่สวยงามและเรื่องราวที่อ่านสนุกเหมือนเดิม โปรดเชิญรับชมครับ!


photo_1

photo_2

photo_3

photo_4

photo_5

การกลับมาอีกครั้งของมือใหม่ลามี่ฝีมือเทพ! Indulas Kan

แนะนำตัวกันอีกรอบ ทาสรัก LAMY มือใหม่ Indulas Kan

สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมคงต้องขอแนะนำตัวก่อน (เพราะคราวที่แล้วเพิ่งจะเจอเวบนี้แล้วตื่นเต้น เลยลืมแนะนำตัวไป555)

ผมชื่อแก่นครับ เป็นนักศึกษาปริญญาเอกด้านชีววิทยาที่มหาวิยาลัยแห่งหนึ่ง ปกติเป็นคนชอบวาดรูปมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว(ส่วนใหญ่เป็นการ์ตูน) แต่ก็ชอบวิทยาศาสตร์มากเช่นกัน ในขณะที่เรียนผมก็ชอบใช้การวาดรูปเข้ามาเป็นตัวช่วยในการศึกษาชีววิทยา ทั้งในเลคเชอร์และการจดบันทึกขณะทำงานวิจัย แต่ก็พยายามจะวาดนู่นวาดนี่ที่นอกเหนืองานวิจัยมาตลอด

สมัยก่อนการวาดของผมจะใช้ดินสอและปากกาลูกลื่นเป็นหลัก และไม่เคยใช้ปากกา fountain pen มาก่อนเลยในชีวิต แต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้วผมได้พบกับบล็อกปริศนาบล็อกหนึ่งโดยบังเอิญ และเนื่องจากเจ้าของบล็อกนั้นคลั่งใคล้เทิดทูนปากกา LAMY มาก (ฮา) ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิตให้ตกหลุมรักปากกายี่ห้อนี้อย่างโงหัวไม่ขึ้น และไปถอยมาไว้ในครอบครอง และพาลติดตามลายแทงของบล็อกนี้ ไปสั่งซื้อหมึก Platinum carbon black จากญี่ปุ่น ไม่พอแค่นั้น ยังพาผมไปพบรักกับ Rhodiarama สมุดที่เจ้าของบล็อกได้สาปแช่งเอาไว้อีก (ฮา) รู้ตัวอีกทีแทบไม่เหลือเงินไว้กินข้าวเลยทีเดียว

เนื่องจากกำลังเรียนอยู่ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าผมจะไปเที่ยวที่ไหน เมาที่ใด ผมก็จะพกสมุดและปากกาคู่ใจไปให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะพยายามวาดมาส่งเยอะๆนะครับ ^^

sketch-01 sketch-02 sketch-03 sketch-04 sketch-05 sketch-06

อุปกรณ์: LAMY 2000 EF nib, Platinum Carbon Black ink , Rhodiarama notebook

ปล. ผมใช้กล้อง iPad ถ่ายนะครับ อาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ไม่มีเครื่องสแกน ; _ ;

รู้สึกว่าพอได้อ่านบล็อกผมแล้วจะโดนไปไม่ใช่น้อยนะครับ กร๊ากกกก@hackhq

สาวก LAMY มือใหม่

ผมเห็นปากกาของ LAMY มานานแล้วครับ แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสซื้อมาใช้ซักที จนเมื่อ 3 วันก่อนเปิดไปเจอรีวิวปากกาหมึกซึมยี่ห้อนี้ อ่านไปอ่านมาบังเกิดความศรัทธาที่แรงกล้า และตั้งมั่นว่าจะไปหามาในครอบครองให้จนได้ และในที่สุดผมก็ยับยั้งกิเลสไม่ไหว เดินออกไปหาซื้อในเย็นวันนั้นทันที เนื่องจากเพิ่งจะเคยใช้ปากกาหมึกซึมเป็นครั้งแรก ยังรู้สึกไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่ใช้ไปใช้มา โอ้ว เพลินเลยครับ นั่งวาดทั้งวัน พยายามเปิดหนังสือ เปิดอินเตอร์เนต เพื่อหารูปคนมาฝึกมือ ก่อนที่จะพาเจ้า LAMY safari กับสมุดบันทึกในมือ ออกเดินทาง Sketch ไปตามที่ต่างๆ ตอนนี้รัก LAMY มากครับ^^ (ภาพนี้ ใช้ LAMY safari EF วาดบนสมุดของ Alchemy)

image_1

image_2

image_3

image_4

image_tool

ผมก็รักลามี่มากเหมือนกันครับ …รักจนสิ้นเนื้อประดาตัว@hackhq