ใครที่ตามอ่านสเก็ตช์หรือว่าตามทวิตเตอร์ตามอินสตาแกรมของผมคงจะพอทราบใช่ไหมครับว่าผมเป็นคนที่เสพติดกาแฟจนเรียกได้ว่าต้องดื่มทุกวันหลังอาหารเลยก็ว่าได้ เมื่อตอนที่ยังอยู่เชียงใหม่ผมก็ต้องออกไปชิลกาแฟไปสเก็ตช์อยู่บ่อยๆ แต่ทีนี้เมื่อย้ายมาทำงานที่บางกอก(ชั่วคราว) การจะหาร้านกาแฟ “ที่ถูกใจ” สักร้านมันช่างยากเย็นยิ่งนักหากไม่ใช่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้าก็แทบจะเรียกได้ว่าหาทางไปไม่เป็นเลยทีเดียว
ไม่ใช่ว่าร้านกาแฟในห้างหรือร้านอื่นๆ ในบางกอกจะไม่ใช้กาแฟคุณภาพดีนะครับอย่าเข้าใจผิดแต่ผมเป็นคนที่ “ติดรสกาแฟ” คือจะมีรสที่ผมชอบดื่มเป็นพิเศษซึ่งไอรสนี้มันก็ไม่ได้ราคาแพงระดับ Starbuck อะไรหรอกนะแต่เคัาไม่ค่อยเอามาขายกันเท่านั้นเอง ผมเลยหากาแฟดื่มในแบบที่ถูกใจได้ยากนั่นเอง จนเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองที่ห้างพาราก้อนชั้นโรงทานเค้ามีเชนร้านกาแฟจากต่างประเทศมาเปิดครับชื่อร้านว่า Costa เป็นเชนชื่อดังจากอังกฤษ นี่จึงเป็นเหตุให้ผมพบสวรรค์ในที่สุด(ถ้าอยากอ่านเรื่องร้านกาแฟร้านนี้เพิ่มเติมก็รออ่านในอีกเว็บของผมได้นะ Coffee Walk ซึ่งไม่ได้อัพมาชาตินึงล่ะครับ ก็ลุ้นกันต่อไปว่าไอคนเขียนมันยังจะเขียนต่อหรือเปล่านะ -.,-)
ผมดื่มกาแฟอยู่แค่ไม่กี่เมนูครับและที่ต้องสั่งแน่ๆ หากต้องการลองกาแฟร้านใดๆ ก็ตาม เมนูนี้ก็คือ Doppio Espresso ร้านนี้ราคาราคา 85 บาทครับ รสชาติไม่ต้องพูดถึงเะราะถูกใจเป็นที่สุด! นุ่มลิ้นลื่นคอและไม่เปรี้ยวจนเกินไป แค่เพียงกาแฟหยดแรกหยดลงบนปลายลิ้น ดวงตาทั้งสองข้างของผมก็เบิกโพล่งเสมือนได้เห็นแสงสะท้อนเนินอกของนางฟ้าที่บินล่องลงมาจากสวรรค์…แต่เว็บนี้มันเป็นเว็บสเก็ตช์นี่! พอๆ ไม่เขียนเรื่องกาแฟแล้ว! ว่าแต่ว่า…เห็นถ้วยซอฟต์ครีมชาเขียว-ถ่านข้างหลังมั้ยครับ? อันนี้มันเป็นทริคนะครับคือว่าถ้าอยากไปสเก็ตช์นอกบ้านแต่คุณดันพกแฟนติดตัวมาด้วย(พูดซะอย่างกับเป็นหมากระเป๋า -.,-) วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เธอนั่งนิ่งๆ นั่งเงียบๆ ไม่บ่นเวลาที่เราสเก็ตช์นานๆ ก็คือต้องซื้ออะไรมาให้กินให้ถ่ายรูปครับ เป็นการซื้อเวลาให้เราได้มากโขนะ
ผมเริ่มสเก็ตช์โดยเลือกมุมที่ผมคุ้นเคยที่สุดของรัานนี้ครับ ฝาผนังที่มีกรอบรูปอุปกรณ์ชงกาแฟแปะอยู่และอีกจุดหนึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรัาน Costa นี้ก็คือโคมไฟมีแดงสดสีเดียวกับโลโก้ของร้านครับ ผมจึงไม่รอชัา ใช้เวลาขณะที่หมากระเป๋า เอ้ย! ยัยแฟนกำลังถ่ายรูปถ้วยซอฟต์ครีมและจ้วงตักกินนั้นมาสเก็ตช์ครับ
ผมใช้เวลาสเก็ตช์ค่อนขัางนานครับสำหรับภาพนี้ น่าจะใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงได้ ผมสเก็ตช์ช้าๆ เก็บรายละเอียดของโคมไฟ กรอบรูปแต่ละรูปและก้อนอิฐบนผนังจนแล้วเสร็จก็เงยหน้าไปมองยัยแฟน…คิ้วเริ่มเลื่อนมาชนกันหน่อยๆ ล่ะ ผมจึงรู้ชะตากรรมว่าถ้ายังจะลงสีต่อผมคงได้ไปเป็นศิลปินเอกบนสววรค์แน่ๆ ครับ ;_;)/
กลับถึงบ้านก็คิดที่จะลงสีแต่แล้วเวลาก็ผ่านไปหลายวันกว่าจะหาเวลาลงสีได้ เปิดดูรูปที่ถ่ายไว้บน ไอโฟน4 ของรักของขัา~ เพื่อให้ลงสีได้โดยไม่ผิดเพี้ยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับถึงจะเสร็จสิ้น สเก็ตช์ภาพนี้ก็ออกมาสมบูรณ์ตามที่นึกไว้ ผมชอบสีสันของรัานกาแฟร้านนี้จริงๆ เลย
ผมขอแนะนำร้านกาแฟร้านนี้นะครับอยากให้ลองมากันสักครั้งนึง เพราะไม่ว่าคุณจะไปสเก็ตช์หรือจะแค่ไปจิบกาแฟก็ตาม คุณจะต้องได้รับความสนุกและเพลิดเพลินแน่ๆ บรรยากาศของร้านกาแฟที่เปิดโล่ง นั่งดูผู้คนเดินผ่านไปมาพร้อมสูดกลิ่นกาแฟที่หอมหวาน และแน่นอนโดยเฉพาะความสุขที่ปลายลิ้นได้สัมผัสกับกาแฟรสนุ่มจากร้านนี้ ช่างเป็นวันหยุดที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เลยครับ เห็นด้วยมั้ย?
อุปกรณ์ที่ใช้ : ปากกา Lamy Safari EF nib, หมึก Platinum Carbon Black, สมุด Rhodia : Rhodiarama, สีน้ำ Winsor & Newton, พู่กัน Escoda Reserva Kolinsky-Tajmyr Sable Round Travel Brush