Tag: lamy

สเก็ตช์สวยเล่าเรื่องราวจากทาสรัก Lamy : Indulas Kan 1

ผลงานสเก็ตช์ชุดนี้เป็นของคุณ Indulas Kan ที่เคยฝากผลงานไว้ให้เราได้ตะลึง ทึ่ง กับลายเส้นที่สวยงามของเขาในตอน สาวก LAMY มือใหม่ คราวนี้เขากลับมาอีกครั้งกับสเก็ตช์ที่สวยงามและเรื่องราวที่อ่านสนุกเหมือนเดิม โปรดเชิญรับชมครับ!


photo_1

photo_2

photo_3

photo_4

photo_5

Moai Coffee สวนผึ้ง

ครั้งนี้ตั้งใจจะลองฝึกสเกตช์สถานที่ดูบ้าง แต่ก็..ยังคงเป็นการสเกตช์จากภาพถ่ายอยู่นะคะ เพราะหากจะสเกตช์สดเลยนี่ยังคงไม่สามารถค่ะเลือกสเกตช์ภาพถ่ายร้าน Moai Coffee ที่สวนผึ้ง ซึ่งร้านนี้ออกแบบร้านได้ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวให้แวะพักชิมกาแฟได้ดี รสชาดพอใช้สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟแต่ว่าราคาค่อนข้างสูงพอๆกับร้านในกรุงเทพเลยทีเดียวค่ะ

moai2
ภาพนี้วาดบนกระดาษ Arches 300 กรัมชนิดผิวหยาบ ใช้ดินสอวาดโครงคร่าวๆแล้วลงรายละเอียดลายเส้นด้วยปากกา Lamy Safari EF เพื่อทดสอบหมึกกันน้ำ Noodler’s Ink สีดำ ปรากฏว่าเส้นที่ลากไม่ค่อยสม่ำเสมอทำให้ต้องลากซ้ำซึ่งอาจจะเป็นเพราะผิวกระดาษที่ค่อนข้างหยาบที่น่าจะเหมาะกับปากกา Pigma มากกว่า(มั้งคะ) และลงสีด้วยสีน้ำ Winsor Deluxe Sketcher’s Box ค่ะ

ร้าน Nakara Jardin เชียงใหม่

เชียงใหม่ทริป (13) ..

มาเชียงใหม่รอบนี้รีวิวแต่โรงแรมไม่ค่อยรีวิวอาหารโดนแฟนคลับนิยมชิม..แอบบ่นมา…เลยจัดไป…กับร้าน Nakara Jardin ใครอย่ามาริอ่านว่า นาการ่า จาร์ดิน..อย่างผมในตอนแรกนะ…เพราะเค้าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแนว Patisserie & Bistro หลายคนที่อ่านอยู่อาจจะงงแปลง่ายง่ายคือ พาติสซารี่ แปลว่า ขนมปิ้ง…บิสโทร..แปลว่าเหลา …เอ่อไม่ได้จบฝรั่งเศสแต่อาศัยพี่ กูเกิ้นช่วย…รวมรวมแปลได้ประมาณว่า เหลาขายขนมปิ้ง (จะเข้าใจมั้ยเนี่ยแต่มันแปลหยั่งงี้จริงจริง)..ซึ่งร้านแนวนี้น่าจะเป็นที่นิยมกันแพร่หลายในยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสเน้นดื่มชาอาหารง่ายง่ายเค๊กอร่อยอร่อย..มีให้เลือกมากมาย..เคยไปฝรั่งเศสมาแล้วเห็นป้ายร้านแบบนี้เพียบเลยแต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าร้านอะไรเลยไม่ได้เข้าไปลอง…มีมากพอพอกับร้านข้าวแกงแถวบ้านเราหรือเวลาแม่ครัวหัวป่าส์ ครึ้มอกครึ้มใจจะเปิดร้านอาหารแล้วนึกแนวร้านไม่ออกมักขึ้นป้ายเรียกแนวร้านตัวเอง..ว่าร้าน..”อาหารตามสั่ง” อิอิอิ..

1

กลับมาที่ชื่อร้าน..จริงจริงแล้วต้องอ่านว่า นครา จาร์แด็ง … ถึงจะดูเป็นผู้ดีผรั่งเศสถ้าอ่านแบบผมตอนแรก..คนเค้าอาจจะมองเราเป็น เศษฝรั่ง แทน555…

ร้านนี้อยู่แถวถนนเจรืญประเทศ ช้างคลาน เชียงใหม่…ที่อยากมาลองเพราะมีหลายคนรีวิวในพันทิพ..ว่าต้องมาชิมให้ได้ประมาณมาภูเก็ตต้องมาลอง หมี่ต้นโพธิ์หรือโอ๊วเอ๋ว..ให้ได้…

2

ร้านบรรยากาศเริดมากเป็นบ้านสีขาวระบุยุคสมัยชัดเจนไม่ได้เดาตามภาพวาดกันเองนะครับ..อยู่ท่ามกลางสวนสวยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก..ร่มรื่นมาก..อาหาร ทุกจานสวยงาม เป๊ะ รสชาดอร่อยได้มาตรฐาน ขนมหวานก็สวยงาม เป๊ะ ได้มาตรฐาน รสชาดดีได้มาตรฐาน เลอกอดองเบลอร์ ….ทุกอย่างดูเหมือนจะดีไร้ที่ติ..แต่ว่า……..

…รู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปอย่าง……………

….หาอยู่นานสองนาน..เจอแล้ว….ขาดเสน่ห์นั่นเอง…

มีคนเคยบอกว่า…

อะไรก็ตามไร้ที่ติและสมบูรณ์แบบมาก กลับจะถูกมองมองว่าขาดเสน่ห์..ท่าจะจริง

3

การที่อาหารทุกจาน ขนมทุกชิ้น…ออกมาได้เหมือนกันหมดทั้งรสชาดและหน้าตาไม่มีแหว่งเบี้ยวเลย…ทำให้นึกเลยไปถึงการ พิมพ์ หรืออัดภาพไปโหลโหล…พันพันใบ …มักจะมีสน่ห์น้อยกว่าภาพที่ผ่านการวาดที่ละแผ่น..เพราะความเหมือนหรือการไม่ยอมให้ผิดพลาดนั่นเอง…ทำลายเสน่ห์…

สังเกตุทุกสิ่งที่ธรรมชาติสร้างนั้น ไม่ว่าจะเป็น คน พืช หิน แต่ละคน แต่ละต้น แต่ละก้อน จะไม่เหมือนกันเลย..เพราะธรรมชาติให้เสน่ห์มากับทุกสิ่งที่สรรค์สร้าง…

แต่ยังไงถ้าไปเชียงใหม่ก็แนะนำร้านนี้นะครับเพราะอร่อยได้มาตรฐานบรรยากาศดีมาก…สำหรับหลายคนที่เบื่อการผิดพลาดกำลังมองหา Perfectionist ….

อุปกรณ์ : ลามี่ safari, noodlers ink, watercolor บนสมุด Sketch Zequenz

www.nakarajardin.com

เถ้าแก่ลาว garage

ได้มืโอกาศไปเชียงคานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยพักที่ ‘เถ้า แก่ ลาว’ เมื่อขึ้นไปชั้น 2 แล้วมองลงมา จะเห็น ‘เถ้าแก่ลาว garage’ หน้าตาคล้ายร้านกาแฟ แต่น่าจะเป็นโรงจอดรถตามชื่อ ไปอยู่มาสองวันไม่เห็นเปิดเลย

IMG_30981
ผมถ่ายรูปมาและสเก๊ตจากความทรงจำ แต่ด้วยความที่หมึกไม่กันน้ำ และยังใช้สีน้ำแบบก้อนไม่เป็น มันเลยดูเละไปหน่อย

อุปกรณ์ : ปากกาลามี่ซาฟารี nib EF,M หมึก LAMY Black, กระดาษสเก๊ตยี่ห้อ SEIKAI, สีน้ำ REEVES

ถึงแม้จะเริ่มสเก็ตช์มาได้เพียง 1 สัปดาห์ แต่ผลงานน่าสนใจมากครับ ผมจะคอยติดตามผลงานต่อไปนะครับ Keep Sketching!!@hackhq

Sailing

ภาพสเกตช์ลายกระดาษ napkin ระหว่างนั่งรอลูกสาวเรียนศิลปะวันนี้ค่ะ ยังคงใช้กระดาษ Arches ด้วยเหตุผลในการลงสีน้ำเป็นหลัก ?กำลังคิดว่าจะนำตัดและเย็บเป็นสมุดสำหรับสเกตช์น่าจะสะดวกในการพกพาและเก็บได้ดีกว่าการตัดเป็นแผ่นๆค่ะ

sketch
อุปกรณ์ : ปากกา Pigma 0.005, 0.01, สีน้ำ Winsor & Newton Cotman, กระดาษ Arches 300 กรัม ขนาด 18×16 ซม

ตู้ไปรษณีย์ – โปสการ์ดจาก London

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่แบ่งปันทั้งในบล็อกและเวปไซด์ซึ่งมีประโยชน์มากๆค่ะ ปกติแล้วจะวาดภาพสีน้ำบ้างเป็นงานอดิเรกซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพแนว Botanical หรือภาพวาดการ์ตูนน่ารักๆ พอได้รู้จักบล็อก BB Design เลยเริ่มสนใจงานสเกตช์และเริ่มลงมือสเกตช์ภาพแรกนี้จากโปสการ์ดที่สะสมไว้ค่ะ

Sketching
ภาพ : ตู้ไปรษณีย์ (โปสการ์ดจาก London)
โดย : @yingsayhi (IG)

อุปกรณ์ :
1. ปากกา pigma 0.05 ส่วน lamy ตอนนี้ยังไม่มีหมึกกันน้ำของ Noodle’s เลยเป็นพร็อพประกอบไปก่อนค่ะ
2. กระดาษ Aches 300 gm
3. สีน้ำ Winsor & Newton Cotman, Sennelier

ไหนๆ ก็ส่งรูปผลงานที่เคยวาดมาให้ดู ผมเลยขอเอามาลงด้วยนะครับ ซึ่งพอได้เห็นแล้วก็……ทุกคน! กราบ!!@hackhq

IMG_3767a

IMG_3773a

IMG_3778a

ทริปตะลุยชิมรอบเมืองเชียงใหม่ โดย Wirachai Pranveerapaiboo

ทริปเชียงใหม่ (8) ตั้งใจตั้งแต่ก่อนมาเชียงใหม่ทำการบ้านว่านอกจาก ..นอน..วาดภาพ..แล้ว การกิน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่ขี้เหนียว..และปล่อยให้ร้านดีดี..ลอยนวล…วันนึงเลยตระเวณชิมประมาณ 5 มื้อเป็นอย่างน้อย..หลังจากอาหารเช้าไม่นาน..ก็เริ่มมองหาของว่างรองท้องก่อนเที่ยง..จากโรงแรมเดินไปทางซ้ายไม่ถึงสิบก้าว..มีร้านชาสีชมพูที่โด่งดังตามในพันทิป รีวิวมากมาย..เลยขอเกาะกระแสไปลองกับเค้ามั่ง…ปรกติไม่ถนัดดื่มชาเท่าไหร่..รู้จักแค่ ชาระมิงค์ กับ ลิปตัน ..ก็ไฮโซสุดแว้ว…มาร้านนี้ถึงกับอึ้งต้องกลับมาเปิด google ศึกษาวิชา ชา อีกพักใหญ่…ไม่น่าเชื่อว่าแค่คำว่าชา..สามารถเอารายละเอียดมาขยาย จนเป็นเรื่องเป็นราว..สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ..ต่อยอดรายได้..ที่นี่..เวียงจุมออน..ทำได้ดีจนเกินกว่าที่จะให้โอทอปห้าดาว…ถ้าในเรื่องชาผมคงให้ร้านนี้ 5ดาว มิเชลินสตาร์แทน…มาครบทั้งเรื่องราวการดื่ม .. หน้าตาแพกเกจ และ รสชาด…ทำให้การนั่งชิลชิล แค่แวะดื่มน้ำชาซักแก้ว..ก็รีดเงินไม่แพ้ไปทำสปาหรูหรู 5 ดาว..เมื่อรวม ค่าเสียหาย ของที่ ซื้อกลับและนับ อุปกรณ์ชงชารวมด้วย…แนะนำว่าใจไม่แข็งอย่าแวะไป..แค่ดื่มชา

1 2ทริปเชียงใหม่. (9) .. ABF …ศัพท์ที่ค้นหูของนักท่องเที่ยวและชาวโรงแรม…ย่อมาจาก american breakfast ..เมื่อย้อนกลับไปตอนสมัย..ปีกเริ่มกล้า ขาเริ่มแข็งการออกไปท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกิจกรรมสุดโปรด..และอาหารเช้าตามโรงแรมนั้นเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมาก..เนื่องจากว่ากินได้ไม่อั้นเต็มบุฟเฟ่ลายน์..ผ่านมาซักพักหลังจากเที่ยวมากขึ้นก็ค้นพบว่า..โรงแรมทุกที่ในโลก..ช่างน่าเบื่อเหลือเกินเพราะอาหารเช้าตามมาตรฐานคือ ABF (ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับ American standard หรือไม่555 )โดยเฉพาะโรงแรมในเมืองไทยสามารถสร้าง อเมริกัน เบรคฟัสท์ ของเราน่าให้มีมาตรฐานสูงกว่าที่อเมริกาเพราะระยะหลังเริ่มรู้สึกได้ว่า ทุกโรงแรมมีอาหารเช้ารสชาดเหมือนกันหมด..คือ เยอะและเลี่ยน..ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมกี่ดาว..เรียกได้ว่าตื่นมาเดินเข้าไปห้องอาหารสูดกลิ่นก็อิ่มเลย..ไม่รู้คนอื่นเป็นมั้ย..หลังหลังเป็นหนักขนาดทิ้งคูปองอาหารเช้าบ่อยมาก……มาเชียงใหม่คราวนี้..โรคเดิมเริ่มกำเริบตั้งแต่ตื่นเช้าหลังอาบน้ำเสร็จกะว่าถ้าเจอ American Standard Breakfast จะออกไปกินโจ๊กสมเพชร 24 ชั่วโมงของดีเมืองเชียงใหม่..แทน..

3

..พอลงมาที่ร้านอาหารเริ่มรู้สึกดีที่พนักงานของโรงแรม Sala Lanna บอกว่าที่นี่ไม่มีบุฟเฟ่ต์ลายน์..อาหารเช้าที่นี่จะเป็นตามสั่ง..แอบเหลือบมองโต๊ะอื่นดูหน้าตาอาหารผ่านการ stylish มาเหมือนกับในหนังสืออาหารเมืองนอก….พวกMarthe Stuart .. Jammy Oliver น้ำย่อยในกระเพาะเลยทำงาน..เปลี่ยนใจมาลอง…หลังจากหยิบเมนูมีหลายตัวเลือกแต่แอบเห็น ABF ของโต๊ะข้างข้างหน้าตาดีทีเดียว ตัดสินใจสั่ง ABF …
ไม่ช้าไม่เร็วบรรดาเครื่องดื่มขนมปังทยอยเสริฟ..กำลังดีกับการทิ้งช่วงเวลาให้สเก๊ตลงทีละอย่าง..พอดิบพอดี..จนมาถึงจานเมนหลักของ ABF… หน้าตาดูดีแถม..รสชาด .อร่อยแตกต่างกันมากกับ ABF Standard ทั่วไปรวมรวมน่าจะมาจาก…คุณภาพของวัตถุดิบและคัดสรรส่วนผสมในจาน..การปรุงสุกใหม่จานต่อจาน..ไม่ได้ทำเป็นโรงงานอุตสาหกรรม..และ ฝีมือการปรุง+ตกแต่งของเชฟ..ที่นี่ ABFเค้า ประทับใจใน รสชาด หลังทายไม่เกิดอาการอิ่มแบบพะอืดพะอม..ช่างเป็นABF ที่ไม่เหมือน ABF จริงจริงเลย..

 
อุปกรณ์ : ลามี่ safari, noodlers ink, watercolor บนสมุด Sketch Zequenz

โรงแรม Sala Lanna เชียงใหม่

ทริปเชียงใหม่(7) โรงแรมที่พักแห่งที่สอง..คือ Sala Lanna เลือกที่นี่เพราะเพิ่งเปิดใหม่ ตกแต่งสวยงาม..ใส่ใจในรายละเอียดซึ่งได้มาตรฐาน Sala ที่มีในหลายเมืองท่องเที่ยวหลักหลักของไทย..ทำเลดีมากติดริมปิง..แถมละแวกโรงแรมเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร..ที่เที่ยวมากมายโดยแค่เดิน..ออกมาก็เจอบรรยากาศเมืองเก่ายุค ลานนา โคโลเนี่ยล..

Sala Lanna เป็นโรงแรมแบรนด์ไทยแท้..ที่มีบุคลิคโดนใจ..ราคาอาจไม่ค่อยสบายกระเป๋าเท่าไหร่..แต่เทียบกับคุณภาพแล้วคุ้มค่า..ภูมิใจแทนคนไทยที่มีแบรนด์ของตัวเองที่มีคุณภาพไม่น้อยหน้าเชนดัง…ภาพนี้เป็นวันที่สองไฟแรง..ตื่นแต่เช้าออกมาสเก๊ตมุมมองริมปิงหลังห้อง..ยังไม่หนำใจก่อนเวลานัดอาหารเช้า..ออกมาวาดหน้าโรงแรม..เหลือบไปเห็นตุ๊กตุ๊กโรงแรมจอดอยู่สีเข้ากับบรรยากาศตึก..ซึ่งเข้าใจว่าอีกหนึ่งประโยชน์คือการใช้เป็นของตกแต่งเพราะไม่เคยเห็นย้ายไปไหน.เลยตลอดสองวันที่พักอยู่…เลยยอมตากแดดอ่ออนอ่อนยามเช้า..บรรเลงเพลงปากกากับสีน้ำตามที่ใจเรียกร้อง…

996826_555324324508613_610228575_n-fixed

 

อุปกรณ์ : ลามี่ safari, noodlers ink, watercolor บนสมุด Sketch Zequenz

โรงแรม 137 Pillas House เชียงใหม่

ทริปเชียงใหม่(10)…โรงแรมที่สามที่ไปพักทริปนี้เป็นที่ที่ชอบที่สุด..และแพงที่สุด..ราคาต่อคืนเกินมาตรฐานหลายเท่าตัวที่ตัวเองจะจ่ายตามงบของที่พักในการท่องเที่ยวส่วนตัวปกติ..แต่ขอกระแดะไปพักเพราะความจำเป็นทางวิชาชีพ(สถาปนิก)..อาชีพนี้จำเป็นต้องพาตัวเองไปรสนิยมทั้งสูงและต่ำ..ในการนอนดื่มกิน เพื่อมาเติมฝันในโครงการของลูกค้า อนาคต…เรียกให้ดูดีมีวิชาการส่วนตัวมักคิดว่าเราจ่ายเพื่อเป็นการ R&D ในประสบกาณ์เราเอง..อิอิ..

ตัวโรงแรมมีดียังงัยขอมารีวิวในรูปหน้า..ภาพนี้เป็นการวาดสามล้อที่จอดเป็นพร๊อพหน้าโรงแรม..ให้เข้ากับตีมทั้งสีรูปทรง สมัย สะท้อนแนวการตกแต่ง…ดูเผินเผินเหมือนเราย้อนอดีต..แต่แอบมีความเป็นแบรนด์ใส่เข้ามาไม่น้อย..สังเกตุว่าโรงแรมฮิปฮิปต่างก็มีการจัดหารถตามแนวตัวเองมาจอดหน้าโรงแรมเป็นพร๊อพ..ใครที่กำลังทำธุรกิจ..อย่าลืมมองหายานพาหนะกิ๊บเก๋เข้ากับตีมมาจอดไว้ตามเทรนด์ตามหน้าร้านมั่งก็ไม่เลวนะครับ..
sketch-1

ทริปเชียงใหม่(11)..ไปเชียงใหม่ครานี้..เป็นช่วงสุดสัปดาห์..ในการออกตระเวณท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างจะต้องรับกลับที่พักก่อนสองทุ่มครึ่งทุกวัน..เพราะว่ามีนัดต้องเข้าเฝ้า คุณชายรณพีร์ กำลังเข้มข้น..เพราะเพียงขวัญนางเอกตามท้องเรื่องเพิ่งรู้ความจริงว่า ตาพระเอกเป็นหม่อมราชวงศ์ ประมาณเจ้าชายอาศัยอยู่ใน..วังจุฑาเทพ…นางเอกเอ่ยปนน้ำตาหลังทราบความจริงว่า… “วังนี้สง่างามมากไม่รู้ว่าทำงานทั้งชีวิตจะซื้อของตกแต่งซักห้องนึงได้หรือไม่” … ที่เกริ่นมาเพราะว่าที่พักแห่งที่สามนามว่า “137 Pillar house” http://137pillarshouse.com/
หลังจากเข้าไปเช็คอินต้องยอมรับว่า…ออกแบบและตกแต่งได้สง่างาม ประณีตไม่แพ้วังจุฑาเทพ…มีห้องพักเพียง36ห้องบนพื้นที่ดินเกือบสิบไร่(จากการกะด้วยประสบการณ์การเป็นนักSketchers มาระยะหนึ่ง)ทำเลกลางย่านเมืองเก่าเชียงใหม่แถวริมปิง..รายละเอียดโรงแรมยังมีSketch อีกหลายมุม..เก็บไว้มาต่อคราวหน้านะครับ..
sketch-2a sketch-2b

ทริปเชียงใหม่(12) ยังคงเพลินใจที่..137 Pillar House..หลังจากได้พักไปหนึ่งคืน..เพื่อนร่วมทริปทุกคนพูดเห็นเสียงเดียวตอนอาหารเช้าว่า..ประทับใจมากโดยเฉพาะเซียนท่องเที่ยวระดับตำนานถึงกับเอ่ยปากว่า เป็นโรงแรมในส่วนของห้องพักและบรรยากาศที่ดีที่สุดที่เคยไปพักมา…บ่องตง ไม่ได้มีการสปอนเซอร์อะไร..จากโรงแรมเลย….แต่เห็นด้วยว่าที่นี่ทำให้รู้สึกว่าการพักผ่อนแบบหรูหรามันเป็นอย่างนี้นี่เอง..ความหรูหราที่สัมผัสได้ของที่นี่ไม่ได้เกิดจากการใช้วัสดุราคาแพงหรือตกแต่งด้วยงานศิลปะล้ำค่าเลย….กลับเป็นการผสมผสามลงตัวระหว่าง เรื่องราว งานออกแบบ และ ธรรมชาติ…

เรื่องราว..เค้าสร้างตำนานจากการย้ายเรือนไม้สักเก่าหลังเขื่องมาสร้างใหม่ณ.ที่แห่งนี้เป็น Signature โดยเข้าใจว่าบ้านนี้มีต้นซุงเป็นเสาเรือนนับได้137ต้นเลยเป็นที่มาของชื่อ (Pillas แปลว่าเสา)โดยเอาตำนานของการลากซุงโดยช้างสมัยยุคการทำสัมปทานไม้สักรุ่งเรืองเข้ามาเป็นตีมตกแต่งภายในห้อง..อย่างแนบเนียน..
sketch-3

ส่วนการออกแแบก็ยังได้อานิสงค์ของตำนานมากำหนดเป็นรูปแบบอาคารจากการที่บริษัทฝรั่งที่ชื่อว่า บริษัท บอเนียว ชื่อคุ้นคุ้นมะ? มาสัมปทานไม้ในยุคนั้น เลยเกิดเป็นลูกผสมระหว่าง ฝรั่งกับเชียงใหม่..กลายเป็นสถาปัตยกรรม ทรง “โคโลเนียล ลานนา” ที่ยังมีหลักฐานอาคารเก่ารอบรอบที่ตั้งโรงแรม ซึ่งแต่ละห้องก็ตกแต่งเหมือนจำลอง ห้องของนายฝรั่งสมัยนั้น…เสียดายไม่รู้ล่วงหน้า..ไม่งั้นจะพกไปส์กับบรั่นดีไปด้วย.รับรองเนียนนน..เป็นอันว่าคืนนั้น..สวมบทเจ้านายฝรั่งนอนบนเตียงอันแสนนุ่ม..ชงชาชั้นดีที่แถมไม่อั้น…ลุ้นคุณชายรณพีร์ต่อไปว่าจะเอาชนะใจนางเอกได้หรือไม่….ไม่ทันหนังจะจบ..เตียงชั้นดีกลับออกฤทธิ์มากกว่าคาเฟอีนของชาชั้นดี..ทำให้เข้าเฝ้าพระอินทร์เร็วกว่าที่ตั้งใจ..ZZZZ…
sketch-4

6.30น.เสียงนกร้องตอนเช้าดังแว่วแว่วเข้ามาในห้องนอนแทนเสียง ringtone เตือนปลุกของโทรศัพท์..ลุกจากเตียง..คว้าสมุดเสก๊ตกับอุปกรณ์..ออกไปที่เฉลียงมุข แปดเหลี่ยม..หลังห้องที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และสมบูรณ์มากกก..อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับทวดเราแต่ละต้นถ้าจะบอกขนาดต้องใช้หน่วยเป็นคนโอบ…. แสงแดดอ่อนมาขับภาพให้น่ามองเข้าไปอีกทนไม่ไหวจับโอโซนมาผสมสีน้ำระบายบรรยากาศ…โอว์เพิ่งรู้ว่าชีวิตการเป็นนายฝรั่งสมัยก่อน..มันหรอยแบบนี้เอง…..ถึงว่าฝรั่งหลายคนถึงกับเปลี่ยนใจตั้งรกรากที่นี่ไม่ยอมกลับบ้านเกิด…Boss อยากเป็น “ป้อเลี้ยง” 555…

เทคนิค..ลามี่ safari, noodlers ink, watercolor บนสมุด Sketch Zequenz

กาแฟถ้วยโปรดที่ร้าน The Coffee Club

ใครหลายคนอาจจะเคยได้อ่านที่ผมรีวิวร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ The Coffee Club ลงในบล็อกกาแฟอีกแห่งของผม Coffee Walk ไปแล้ว แต่วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงอีกมุมหนึ่งครับ นั่นก็คือการสเก็ตช์!

ร้านกาแฟร้านนี้ผมเห็นมาจากคุณ @kangg นั่นแหละครับเพราะเค้าไปบ่อยแถมแต่ละเมนูที่สั่งมาก็น่าดื่มทั้งนั้น พอร้านนี้มาเปิดสาขาที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ ผมก็อดไม่ได้เลยที่จะต้องไปลองลิ้มชิมรสกาแฟเคล้ากลิ่นหอม และแน่นอนกาแฟแก้วแรกที่ผมจะสั่งมาดื่มก็คือ Long Macchiato นั่นเองครับ! เสริฟแก้วใสวางมาบนกระดาษเช็ดปากได้มุมสวยงามพอดิบพอดีพร้อมเสียงกล่าวดัวฟัวชัดจากพนักงานว่า Enjoy your drink! อ..โอเคครับ เอนจอยสเก็ตช์ชิ่งด้วยเลยละกันนะ

the coffee club-1

ผมลงมือสเก็ตช์กาแฟแก้วนี้ในครั้งแรกที่ไปเยือนร้านครับ และเนื่องจากเวลาจำกัด ผมจึงได้แต่เพียงสเก็ตช์แค่กาแฟแก้วนี้แก้วเดียว

the coffee club-4 the coffee club-5

ต่อมาภายหลัง ผมจึงได้มีโอกาสไปดื่มกาแฟที่นี่อีกครั้งเนื่องด้วยเพราะยัยแฟนมันอยากกินเค้กเสริมความอ้วนสักหน่อย ผมจึงไม่รอช้าเลี้ยวรถปีนทางเท้าขึ้นไปจอดหน้าร้านเลย แต่มาคราวนี้ถึงแม้จะสั่งกาแฟเมนูเดิมแต่ไม่ขอสเก็ตช์แก้วกาแฟล่ะ ขอนั่งมองหาสิ่งที่น่าสนใจและนำมาสเก็ตช์ดีกว่า ซึ่งก็แน่นอนว่าร้านนี้ตั้งอยู่หน้าประตูท่าแพเลย ผมจึงจะสเก็ตช์อะไรอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากกำแพงเมืองฝั่งนี้ครับ

the coffee club-2

the coffee club-3

สเก็ตช์เสร็จก็หันกลับมาที่โต๊ะที่สั่งโอรีโอ้ชีสเค้กไว้ แต่ยัยแฟนก็ยังคงกินไม่หมดทั้งที่ผ่านไปหลายนาทีแล้ว คอยแต่เอาปลายช้อนค่อยๆ แคะค่อยๆ เล็มชีสเค้กออกมาทีละนิดๆ ผมก็ถามว่าทำอะไรทำไมไม่กินล่ะ คำตอบที่ได้กลับมาคือกลัวอ้วนเลยไม่กินตรงโอรีโอ้ ขอกินแต่ตรงชีสละกันนะ …อืมมม กินตรงชีสไม่อ้วนนี่เองได้ความรู้ใหม่แหะ

นั่งร้านกาแฟวันนี้ได้สเก็ตช์มาสองภาพพร้อมกับการเขียนบันทึกเล็กๆ ลงไปบนภาพด้วย ผมว่าผมได้รับอิทธิพลมาจากคุณภาคภูมิ มารีพิทักษ์ที่มักจะสเก็ตช์ในรูปแบบของ sketch journal ได้บันทึกทั้งรูปและข้อความ เปิดกลับมาดูอีกครั้งก็นึกเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างชัดเจน ผมชอบมากเลยครับ

หากคุณได้มีโอกาสนั่งรัานกาแฟครั้งหน้า ลองหยิบสมุดปากกาขึ้นมาสเก็ตช์สิ่งต่างๆ รอบตัวดูนะครับแล้วคุณจะชอบ ผมว่ามันเป็นวิธีการซึมซับบรรยากาศรอบตัวที่ดีอีกวิธีนึงเลยล่ะ

อุปกรณ์ที่ใช้ : ปากกา Lamy Safari EF nib, หมึก Platinum Carbon Black, สมุด Rhodia : Rhodiarama, สีน้ำ Winsor & Newton, พู่กัน Escoda Reserva Kolinsky-Tajmyr Sable Round Travel Brush