ไม่บ่อยครั้งที่จะมีโอกาสมา ตลาดน้ำอัมพวาในวันที่ไม่มีคนพลุกพล่าน
เดินรอบตลาดทั้ง 2 ข้างใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง
หามุมวาดรูปได้โดยไม่ต้องกลัวคนมาเบียดบัง
อัมพวาวันนี้มีหลายมุมน่าวาดเรียกได้ว่าสวยทุกมุม
แนะนำ ลองมาอัมพวาวันธรรมดาแล้วจะติดใจครับ^^
อุปกรณ์ที่ใช้:
อากาศหนาวเย็นมาก ได้เห็นแสงเหนือสมใจ 3 วัน วันแรกที่เห็นเป็นคืนที่ 4 ดีใจกันมาก นึกว่าจะไม่ได้เจอแล้ว พกสมุดไป sketch แต่ไม่มีเวลา ตื่นเช้ามืดตี 3-4 เกือบทุกวันเพื่อล่าแสงเหนือ กลับมาบ้านจึงค่อยทยอยลงรูป ทำวีดีโอ และ sketch เล่าเรื่องราวด้วยภาพค่ะ
อุปกรณ์ที่ใช้
– สมุด Moleskine Voyageur
– Sakura pigma micron 0.25 และ 0.5mm
– สีไม้ Staedtler
บางช่วงผมมีเวลาและความกล้าพอ(กลัวภาพจะพัง)หรือภาพที่จะวาดสื่อด้วยสีน่าสนใจกว่า ก็จะลองสีน้ำดู แต่ความตื่นเต้นว่าภาพจะพังนี้เองที่เป็นความสนุกของช่วงเวลาสีน้ำ ตอนนี้อยู่ในขั้นฝึกฝนครับ หากพี่ๆ เพื่อนๆ มีข้อแนะนำเชิญได้เลยครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ :
ปากกา Lamy , ปากกา Pigma , สีน้ำ Winsor & Newton, Moleskine Watercolor, Canson Montval
สามารถชมผลงานอื่นๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/powderedmilksketchbook/
บันทึกเรื่องราวการเดินทาง โดยส่วนใหญ่เป็นภาพสถานที่ มุมมองวิถีชีวิต ผ่านทางการ Sketch ซึ่งตัวผมมองว่า บางทีความสุขก็เกิดจากการได้ลากเส้นจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งเท่านั้นเอง
อุปกรณ์ที่ใช้ :
ปากกาน้ำเงิน (อาจจะเพราะว่ามัธยมแอบครูวาดด้วยปากกาน้ำเงินบ่อยที่สุด)
ปากกา Lamy , ปากกา Pigma , สีน้ำ Winsor & Newton , สมุด Moleskine Sketchbook
สามารถชมผลงานอื่นๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/powderedmilksketchbook/
สวัสดีค่ะ
ชื่อจิ๊บนะคะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพาคุณแม่ไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์ และ เบลเยี่ยม ที่พักที่ Amsterdam วิวสวยมาก พกสมุด sketch ไปแต่ไม่มีเวลาพอที่จะมานั่งวาด พอวันสุดท้ายจะบินกลับเลยมานั่งระเบียงลองวาดดู ซึ่งเป็นภาพแรกที่วาดจากมุมมองจริง ณ ขณะนั้น การกะสเกลยังไม่สมจริงเท่าไร
พอนั่งลงวาดมันเป็นความสุขสงบค่ะ เรามีสมาธิกับมันค่อยๆวาดจากจุดนึงไปจุดนึง ลงดีเทลไปเรื่อยๆ ทำให้เรามองอะไรละเอียดขึ้น โดยส่วนตัวชอบถ่ายรูปแถมแบกขาตั้งกล้องไปด้วย ซึ่งเป็นการเก็บความทรงจำที่ดี ทำให้การท่องเที่ยวมีความหมายมากขึ้นไม่ได้มองผ่านๆไป เราต้องมององค์ประกอบของภาพ การนำเสนอเรื่องราวเพื่อให้ภาพออกมาประทับใจและสวยงาม แต่การวาดรูปมันทำให้เรายิ่งละเมียดกับมันมากขึ้น. การวาดในสถานที่มันมีเสน่ห์มาก แต่ถ้าเราไม่มีเวลาการวาดจากภาพถ่ายก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรามองย้อนไปว่าเราได้เห็นรายละเอียดอะไรจริงๆหรือไม่
ภาพแรกคือเมือง Amsterdam จากระเบียงโรงแรม Doubletree hotel ค่ะ วาดสดเจาะแต่ป้อม Schreierstoren (อย่าให้อ่าน) เป็นป้อมโบราณตั้งแต่ปี คศ. 1480 ที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน
ภาพสองคือเมือง Bruges ในเบลเยียม ขอบอกว่าใครที่มาเที่ยวเบลเยียมควรมาที่เมืองนี้ เพราะสวยงาม น่ารัก เที่ยวง่ายและเป็นที่ถูกใจคนชอบถ่ายรูป วาดรูปมากค่ะ แค่เดินเล่นในเมืองเล็กๆนี้ก็เพลินไปกับความสวยงามแล้ว รูปที่วาดเป็นมุมมหาชนที่ต้องมาเก็บรูปยามค่ำช่วงฟ้าเป็นสีน้ำเงินก่อนจะมืดสนิท หอคอยที่เห็นคือ Belfry Tower จุดนี้เป็นจุดลงเรือชมเมืองด้วย เป็นกิจกรรมที่ต้องทำเลยค่ะ เพียง 30 นาทีเท่านั้น ส่วน tower เขาให้ขึ้นไปบนยอดด้วย มีเก็บค่าเข้าแต่ไม่ได้ขึ้นค่ะ ข้างบนคงสวย เสียดายเหมือนกัน
รูปนี้วาดจากภาพถ่ายอีกทีจากมุมกล้อง เลนส์กล้องเก็บไม่หมดเท่าที่วาดค่ะ ส่วนเงาสะท้อนลงรายละเอียดแล้วดูเหมือนหนังสยองขวัญ…เลยลองแก้ภาพด้วยการไฮไลท์สีน้ำให้เข้มแทนและทิ้งเงาสะท้อนให้มันขาวๆไปเลย ดูแปลกๆแนะนำเวลาดูให้ปิดช่วงเงาสะท้อนค่ะ 555
การวาดรูปเรากลับไป undo ไม่ได้ มีแต่ลองปรับๆไปตามสภาพค่ะ ยังไงเราก็ทำให้การวาดรูปเป็นสิ่งที่ช่วยเรา relax อย่าไปซีเรียสกับมันนะคะ เราไม่ได้แข่งผลงานกับใครค่ะ
อุปกรณ์
1. Sakura Pigma micron 01 0.25mm กันน้ำ
2. Moleskine Sketchbook, pocket size
ปราสาทสด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว ประเทศไทย
Prasat Sdok Kok Thom, Sa Kaeo, Thailand
Lamy, platinum black carbon ink and Watercolor on Moleskine Watercolor Notebook Pocket
เกาะบูราโน่, อิตาลี
Burano Island-Italy
Lamy, platinum black carbon ink and Watercolor on Stillman & Birn Sketchbook BETA Series.
เกาะซานโตรินี่, กรีซ
Santorini Island-Greece
Lamy, platinum black carbon ink and Watercolor on Stillman & Birn Sketchbook BETA Series.
เชสกี้ คลุมลอฟ
Cesky Krumlov, Czech Republic
Lamy, platinum black carbon ink and Watercolor on Moleskine Watercolor Notebook Pocket
วันหยุดวันเสาร์ทั้งทีจะนอนอยู่เฉยๆ ก็กระไรอยู่
ออกมาตะเวียนตั้งแต่พาหุรัด ศาลาเฉลิมกรุง
เดินผ่านสำเพ็งและมาจบที่หัวลำโพง…
วันเดียวสุดคุ้ม หมดวันสุขอีกวัน
อุปกรณ์:
ปากกา Lamy, สีน้ำและสมุด Moleskine legendary notebook / Zequenz 14×9 cm
มาอีกแล้วกับเซทอาหารมากมาย หลายท่านคงจะถามทำไมกินเยอะจัง…คือไม่ได้กินเยอะขนาดนั้น แค่ค่อยๆวาดสะสมนะเออ #ร้อนตัว 555
ขอเชิญชมเชิญชิมกันได้เลยครับ 😀
ห่างหายไปนาน ชุดนี้เป็นเสกตช์ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ พบร้านกาแฟชิวๆ ร้านอาหารน่านั่ง เรื่องราวสนุกๆมากมาย ก็วาดๆ เก็บบรรยากาศมาฝากกันครับ
ร้านอาหารและที่พัก ชาร์โคลเฮ้าส์ แถวแจ่งศรีภูมิ ที่พักสไตล์เก๋ๆ อาหารขึ้นชื่ออกเป็ดซอสส้มอร่อยดีนะ
ร้านพิซซา ปุลชิเนลลา แถวท่าแพ ตกแต่งร้านเก๋ดี อาหารราคาไม่แพง (ทานคนเดียวทั้งถาดอย่างอิ่ม 55)
ร้านกาแฟชื่อ KAFE 1985 อยู่บริเวณคูเมือง (ซักฝั่งจำไม่ค่อยได้ละ 55) บรรยากาศเก่าๆชวนหวนรำลึกดีแท้
ตอนไปกำลังจะเข้าช่วงเทศกาลประเพณีเดือนยี่เป็ง เลยมีการตกแต่งประดับประดาโคม และพวงดอกไม้หลากสี บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนา
เจอลุงแบกกระบะขายด้วง และสาธิตการเล่นชนด้วงบนคอนไม้ที่มีช่องใส่ตัวเมีย เพื่อส่งกลิ่นกระตุ้นให้ตัวผู้ทั้งสองไฝ้ว์กัน คู่แข่งจะแข่งกันหมุนคอนเพื่อพยายามให้ด้วงอีกฝ่ายตกลงไป และใช้แท่งเหล็กเล็กๆเคาะคอนให้จังหวะเพื่อกระตุ้นด้วงฝั่งเราจากด้านหลังเพื่อให้งัดกับอีกฝ่าย
ไว้ไปเที่ยวไหนจะวาดมาฝากกันอีกครับ ;D
ผมชอบตรงด้วงไฝ้ว์กันมากเลยครับ!@hackhq
หลังจากที่ให้สเก็ตช์เชอร์หลายท่านวาดลวดลายส่งผลงานสวยๆ มาอวดกันเยอะแยะมากมาย สเก็ตช์เชอร์สายขี้เกียจแบบผม(ไอสายนี้ควรจะปิดสำนักไปได้แล้วนะ!)จึงขอส่งผลงานบ้างครับเพราะกลัวผู้อ่านหลายท่านจะลืมกันไปเสียก่อนว่าไอหมอนี่มันสเก็ตช์กับเขาด้วย สเก็ตช์ตอนนี้เป็นสเก็ตช์ในช่วงของเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครับ ขอเล่าเรื่องเรียงตั้งแต่วันแรกเลยนะ
เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ใครจะไปนอนอยู่บ้านเหงาๆ คนเดียวล่ะครับ มันต้องออกไปเจอเพื่อน!! ผมเลยนัดทานข้าวกินเหล้าเมายา(เกือบจะหล่อละแก!) กันที่ร้านคนรู้จักของเพื่อนผมครับชื่อร้านว่า X Wine Z : Wine Store & Bristro เป็นร้านไวน์ที่มีอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนไว้ให้ลิ้มลองครับ เมนูที่สั่งแต่ละอย่างก็ล้วนน่าทานทั้งนั้น และนี่เป็นเมนูที่นำมาให้ชมกันครับ Pan Fried Salmon with Truffle Cream Sauce …เพราะเมนูอื่นสเก็ตช์ไม่ทัน ซัดกันเหมือนแร้งลง!! ส่วนใครที่อยากไปลองทาน ผมก็ต้องขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะได้ทานที่นี้นะครับเพราะว่ามันเจ๊งไปแล้ว!! ไอบ้า! เค้าไม่ได้เจ๊ง!! คือตั้งแต่ปีใหม่ปี 2014 เป็นต้นไปเค้าเปลี่ยนมือเจ้าของครับและจะปรับเปลี่ยนเป็นร้านไวน์เต็มตัว มีการสอนเรื่องไวน์ด้วยนะ ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับส่วนผมขอกินลีโอต่อไปละกัน คุ้นลิ้นกว่ากันเยอะ!
แน่นอนว่าตามร้านค้าหรือโรงแรมต่างๆ ก็ต้องมีการประดับประดาเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการเทศกาลที่แสนสุขแบบนี้ด้วย ที่พักผมก็เช่นกันครับ มีการนำต้นคริสต์มาสสีแดง(?) มาตั้งตกแต่งไว้ที่ล็อบบี้ด้วย ไอต้นคริสต์มาสสีแดงนี่ผมว่าไอเดียเค้าเข้าท่ามากครับ คือการเอาใบจากย้อมสีแดงมาเย็บเป็นวงไล่ขนาดตั้งแต่เล็กไปหาใหญ่วางซ้อนๆ กันจากโคนต้นไปจนถึงยอด ประดับดาวที่ปลายยอดและแขวนห้อยลูกบอลสีทองรอบๆ ต้น กลายเป็นต้นคริสต์มาสรูปแบบใหม่ที่ทั้งน่ารักและสวยงามไม่ซ้ำใครน่าสเก็ตช์เป็นที่สุด
ขอคั่นด้วยรูปสเก็ตช์กากๆ ระหว่างการเดินทางกลับบ้านที่เชียงรายหน่อยครับ รูปนี้สเก็ตช์ระหว่างนั่งรอเครื่องบินส่วนตัวมารับที่สนามบินดอนเมืองครับ ระหว่างที่รอขึ้นเครื่องตอน 3 ทุ่ม แน่นอนว่าปีนี้บางกอกก็หนาวไม่แพ้ที่ใดรวมถึงในสนามบินก็เช่นกัน ผมซึ่งเดินทางมาบางกอกแต่ตัวเปล่าไม่มีเสื้อกันหนาวจึงหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ (ทำไมไม่ซื้อล่ะ อ้อ! แกตังค์หมดเพราะเอาแต่ซื้อหมึกนี่เอง) จึงขอแก้หนาวด้วยการเลี้ยวเข้าร้านกาแฟเพื่อเติมความอุ่นให้แก่ร่างกายนิดนึง ระหว่างที่ดื่มกาแฟไปรอเครื่องบินไปผมก็นึกครึ้มว่าไหนๆ เราก็ได้แก้วกาแฟกระดาษมาแล้ว ขอลองสเก็ตช์ภาพบนแก้วดูหน่อยละกัน ผมก็ลงมือสเก็ตช์ๆๆ แล้วลงสีน้ำดูครับ ถึงแม้ว่าจะวาดยากเพราะมันโค้งๆ แล้วปากกาก็ไม่ค่อยติดแต่ว่าสนุกมากมายเลยครับ! การได้เห็นผลงานของเราปรากฎอยู่บนพื้นที่รูปแบบอื่นบ้างมันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ทีเดียวครับ
ออกจากร้านกาแฟแล้วก็ย้ายมารอเครื่องบินที่หน้าเกทเพราะจวนได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว วันก่อนได้อ่านเรื่องราวของสเก็ตช์เชอร์ท่านนึงและเธอใช้ปากกา Sharpie ในการสเก็ตช์ ผมเลยลองหามาสเก็ตช์บ้างและนี่ก็เป็นผลงานจากปากกาด้ามนี้ครับ ผมไม่ค่อยชอบสัมผัสของหัวปากกาเวลาลงเส้นเท่าไหร่จึงทำให้วาดออกมาได้ไม่สวยเลยครับ…ขอโทษครับอันที่จริงฝีมือวาดคนของผมกากเองแหละ -.,- ปากกาด้ามนี้ออกไปในแนวปากกาเขียนแผ่นซีดีครับเรื่องกันน้ำจึงหายห่วง ส่วนนายแบบและนางแบบในภาพนี้เป็นคู่แต่งงานชาวต่างชาติและคนไทยครับ นั่งรอเครื่องบินนานทีเดียวตั้งแต่ก่อนผมขึ้นเครื่องจนผมขึ้นเครื่องแล้วเที่ยวบินของพวกเค้ายังไม่มาเลยครับ นี่แหละนะความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและคนที่มีเครื่องบินส่วนตัว วะ ฮ่า ฮ่า!! (ไอบ้า! แกได้ตั๋วลดราคา 900 บาทอย่ามาทำเป็นคุย!!)
หน้าหนาวปีนี้เป็นปีที่หนาวจัดมากครับ บ้านผมที่เชียงรายก็หนาวไม่แพ้ที่ใดเหมือนกันเพราะตั้งอยู่บนดอย เตาผิงที่บ้านที่ไม่ได้จุดมาหลายปีมาถึงปีนี้เลยได้ทำงานกันเต็มที่ครับ พ่อขับรถไปขนฝืนจากที่อื่น(คงไม่ได้ขโมยมาหรอกนะ…)แล้วก็เอามาเลื่อยกันที่สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นท่อนขนาดเหมาะมือเตรียมไว้สำหรับตอนกลางคืน จนเมื่อพระอาทิตย์ตกดินอากาศหนาวก็พัดผ่านเข้ามาแทนที่ เราจึงเริ่มจุดเตาผิงกันเพื่อให้คลายหนาว ห้องรับแขกคืนนั้นอบอุ่นขึ้นจริงๆ ครับ พ่อ แม่ ลูก นั่งพร้อมหน้ากันหน้าเตาผิง อ่านหนังสือ ดูทีวี ส่วนตัวผมก็นั่งสเก็ตช์ ทั้งอุ่นกายและอบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด
และแล้วก็ต้องเดินทางกลับมาทำงานต่อที่บางกอกครับ ใจจริงอยากอยู่ต่อนะแต่ด้วยภาระหน้าที่ต้องทำงานทำให้ต้องกลับมาโดยเร็ว วันนี้ต้องไปรับเพื่อนตอนหัวค่ำที่เพิ่งกลับมาจากบ้านของเธอในจังหวัดลำปางครับ วันนั้นทั้งวันผมยังไม่ได้ทานข้าว ผมจึงออกไปเดินห้างใกล้บ้านเพื่อหาอะไรใส่ท้องเสียหน่อย ระหว่างที่รอจะเดินทางไปรับที่สนามบินนั้นผมจึงเข้าร้านอาหารร้านโปรดของบางกอกครับ นั่นก็คือ ร้านข้าวหน้าเนื้อโยชิโนยะ ที่ผมเรียกได้ว่าเสพติดเข้าเส้น! เมนูที่ผมสั่งทุกครั้งเพราะว่าอร่อยล้ำเลิศที่สุดในโลกาก็คือ ข้าวหน้าเนื้อรสเผ็ดและซุปสาหร่ายวากาเมะ รสเผ็ดอ่อนๆ ของเนื้ออันแสนนุ่มวางแผ่บนข้าวหอมญี่ปุ่นร้อนๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปสาหร่ายวากาเมะที่ส่งไออุ่นหอมขึ้นไปในอากาศ ยกซดทีไรก็อร่อยหอมชื่นใจคลายหนาวได้ดีทีเดียว แก้เลี่ยนนิดๆ ด้วยขิงดองที่มีให้เติมแบบไม่อั้น นี่แหละครับคือเมนูสุดอร่อยประจำตัวผมเลยล่ะ …ผมใช้เวลาสเก็ตช์ไปประมาณ 20 นาที ไอข้าวและซุปที่ร้อนๆ หอมๆ ก็หายร้อนหมดแล้วล่ะครับ!! พนักงานในร้านก็มามองกันว่าไอบ้านี่ทำอะไรทำไมไม่กินๆ แล้วออกไปจากร้านไปเสียที เปลืองโต๊ะ! โว๊ะ!
นี่แหละครับเป็นเรื่องราวในช่วงคริสมาสต์และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา ถึงแม้ผมจะไม่ได้บันทึกเรื่องราวเป็นตัวอักษรบนไดอารี่ แต่ภาพสเก็ตช์แต่ละภาพนั้นบอกเล่าเรื่องราวอยู่ในตัวมันเองครับ ถึงจะผ่านปีใหม่มาหลายวันแล้วแต่เมื่อใดที่ผมหยิบสมุดขึ้นมาสเก็ตช์ ก็จะต้องหยุดดูรูปเหล่านี้ก่อนในทุกครั้งไป ภาพอาหาร ภาพต้นคริสต์มาส หรือว่าภาพเตาผิง ทุกภาพล้วนให้ความสุข ความสนุก และความอบอุ่นแก่หัวใจในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงานได้ดีเสียจริง
…สวัสดีปีใหม่ครับ
อุปกรณ์ที่ใช้