สวัสดีครับผม พชร จากลพบุรีครับ มีโอกาสติดตาม B.B. Blog Sketchblog มาสักระยะหนึ่งแล้วครับเพราะส่วนตัวมีความสนใจในการสเก็ตภาพอยู่แล้ว อาศัยดูงานคนอื่นและบวกกับความความชอบและศึกษาด้วยตัวเองจาก bbblogr.com ครับ เและเนื่องจากติดตามอยู่บ่อยๆ มีโอกาสได้เปิดหูเปิดตากับผลงานคนอื่นทำให้เราคิดว่า “เอ๊ะ ไอ้เราก็สเก็ตภาพอยู่นิหน่า ลองเอาผลงานส่งมาร่วมสนุกดูบ้างสิหละ” เห็นคำว่า Sketchland Yard แล้วรู้สึกชอบ วันนี้เลยขอฝากผลงานไว้ 3 ภาพนะครับ
ระเบียงบ้านพ่อนะจ๊ะ รูปนี้จากบ้านของพ่อที่ปราจีนครับ
Tag: Rotring
ลายเส้นแห่งธรรมชาติกลางแจ้ง
ปากการ้อตติ้งตอนที่ผมใช้เรียนเขียนแบบงานไม้ ถูกต้องไว้หลายสิบปีหลังจบการเรียน ไม่เคยคิดว่าเมื่อมาจับปากกาด้ามเก่ามาหัดวาดภาพลายเส้นผมจะทำได้ ลายเส้นที่ไม่เคยเรียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากที่ใดๆ สามารถสร้างความรู้สึกทีสามารถสัมผัสได้ขึ้นมา ยังไม่เคยเขียนสเก็ตช์แบบเป็นสาระต่อเนื่อง แต่พยายามถ่ายทอดภาพในความทรงจำออกมา
บรรณาการแด่ทาสแมวทั้งหลาย
เจาะเวลาหาสเก็ตช์มือใหม่ : ทริปภูเก็ตสุดหรรษา (ภาคจบ)
กลับมาต่อจากตอนก่อนที่ผมเคยเล่าไว้เกี่ยวกับทริปท่องเที่ยวภูเก็ตครับ ถ้าหากพร้อมที่จะดูสเก็ตช์แบบมือใหม่ของผมแล้วก็จับเก้าอี้กันไว้ให้ดีนะครับ!! (แกจะแว้นหรือไง?!!)
ชายหาดกะรน
แอบปีนรั้วโรงแรมเดินลงชายหาดครับ(ไอบ้า! เค้ามีทางลงทำไมไม่ถาม?!) ใส่เสื้อผ้าเต็มยศแถมแบกกระเป๋ากล้องพร้อมเครื่องเขียนมาด้วย ชาวต่างชาติคงคิดว่าไอบ้านนั่นมันมาทะเลทำไมฟระ? …จัดแจงเช่าเก้าอี้ชายหาดแล้วเอนกายเพื่อสเก็ตช์รูปเลย แต่ก็อย่างที่รู้ ทะเลมันเวิ้งว้างกว้างใหญ่จะวาดอะไรเด็ดๆ ก็หามีไม่ จะวาดแหม่มแก้บนอาบแดดก็ไม่ได้เพราะยัยแฟนมันจ้องอยู่ เลยได้ร่มชายหาดมาคันนึงพร้อมด้วยรองเท้าแตะ Havanas ของก็อปอีกหนึ่งข้างมาเป็นแบบให้ครับ T_T
ร้านกาแฟ โกปี้เตี่ยม ถนนถลาง
ทีแรกผมก็คิดว่าไอร้านกาแฟร้านนี้มันจะเป็นร้านเก่าร้านแก่ของภูเก็ตเพราะว่าทั้งการตกแต่งร้านและก็การตั้งชื่อล้วนแล้วแต่ทำให้คิดได้ทั้งสิ้น แต่แล้วความฝันของผมก็ต้องพังทลายลงเมื่อพ่อมาบอกว่า “ไอร้านกาแฟร้านนี้มันเพิ่งสร้างมาใหม่ ปีก่อนยังไม่มีเลย” (พ่อแม่ผมเป็นคนภูเก็ตหน่ะครับ) แต่ไหนๆ ก็เดินผ่านมาแล้วก็ขอลองดูหน่อยละกัน
สั่งชาดำเย็นแบบภูเก็ต เซล้องออซึ้ง มาดับกระหายก็โอเคนะแต่พอดูรายการอาหารที่ขายในร้านก็ไม่น่าสนใจครับเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่อาหารภูเก็ตดั้งเดิมเลยไม่สั่งเลย นั่งอยู่สักพักอยากชิลหน่อย เลยหยิบสมุดขึ้นมาสเก็ตช์และลงสี แน่นอนว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในร้านนี้และผมก็อยากวาดด้วยนั้นก็คือป้ายร้านแบบจีนป้ายนี้ครับ
ร้านกาแฟ tiny Coffee ปั้มน้ำมัน Shell ถนนเจ้าฟ้า
วันนี้ว่างสุดๆ จนไม่รู้จะทำอะไรเลยมาจอดปั้มน้ำมันหากาแฟก้นแก้เบี่ยก่อนซักแก้ว สั่งกาแฟมาแต่สีฟ้ามันสวยดี ก็เลยเริ่มสเก็ตช์อย่างไร้เหตุผลปล่อยให้พ่อแม่และคุณแฟนนั่งรอกันไป (แต่รูปนี้วาดแป็บเดียวนะ)
ทางไปส้วมโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเก่าสมัยแม่ผมเรียนหนังสือเมื่อตอนเด็กครับ แต่เดี๋ยวนี้เค้าเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์แล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดเค้าบอกว่าถ่ายรูปข้างในไม่ได้ผมเลยไม่เข้าไปล่ะ ขอเดินดูรอบๆ ละกัน แล้วก็พอดีเดินไปเจอส้วมเข้า เห็นบรรยากาศมืดๆ น่ากลัวเหมาะแก่การขี้ดี ผมก็เลยขอสเก็ตช์ซักรูปละกัน ตอนกลับถึงที่พักก็เลยเอารูปให้ดู แม่บอกว่าเมื่อก่อนมันเป็นประตูเดินไปไหนไม่รู้แต่สภาพไม่ใช่แบบนี้นะ อันนี้มันคงไม่ได้ดูแลปล่อยไว้ซะเก่าเชียว ปล. รูปนึ้เพื่อนผมบอกว่าตีฟมันสูงเว่อร์เหมือนผีเปรตมองลงมา …ครับ เดี๋ยวผมจะฝึกวาดมากกว่านี้ครับ -..-)
ผมอยากให้คุณผู้อ่านลองสเก็ตช์ภาพระหว่างท่องเที่ยวดูนะครับ ผมว่ามันสนุกและได้อะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลย ทำให้เราได้ซึมซับช่วงเวลาและสถานที่นั้นๆ อย่างแท้จริงไม่ใช่เพียงฉาบฉวยแค่โทรศัพท์มือถือถ่าย แค่วาดเส้นแต่ละเส้นและลงสีแต่ละแปรงเพื่อบันทึก เพื่อให้รายละเอียดในแต่ละจุดแต่ละส่วนสามารถซึมซับจดจำได้ไม่มีวันลืม
อุปกรณ์ : ปากกาหัวสักหลาดหลากยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Sakura, Uni, Staedtler, Rotring เพราะตอนนั้นยังไม่มีหมึกกันน้ำใช้, สีน้ำ Winsor & Newton, Sakura Koi Waterbrush, สมุด Moleskine Plain Soft Cover Pocket
เจาะเวลาหาสเก็ตช์มือใหม่ : ทริปภูเก็ตสุดหรรษา (ภาคต้น)
ครั้งนี้ผมเอาสเก็ตช์เก่ามาให้ชมกันครับเป็นสเก็ตช์เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โดยสเก็ตช์ชุดนี้เป็นสเก็ตช์ที่ผมเพิ่งหัดสเก็ตช์ได้ไม่กี่เดือนครับ ถ้าจำไม่ผิดเพิ่งมาเริ่มก็เดือนกว่าๆ เท่านั้นเองก่อนทริปนี้ พอเริ่มวาดเป็นขึ้นหน่อยผมก็ซ่าอยากไปสเก็ตช์นอกสถานที่มั่งแต่ข้างนอกที่ใกล้บ้านไม่ไปครับ ผมไปภูเก็ต ฟ้าวววว(เสียงเครื่องบิน)
กระเป๋าใส่เสื้อผ้า
จัดกระเป๋าเสร็จสิ้นเตรียมออกเดินทาง ทริปนี้ไม่ทงไม่ทำมันล่ะงานขอพักยาว 1 สัปดาห์เต็ม ตั้งกระเป๋ารอเวลาเพื่อจะโบกรถสี่ล้อแดงไปสนามบินแล้วก็ว่างไม่รู้จะทำอะไร เลยหยิบสมุดขึ้นมาสเก็ตช์ซะเลยเพราะกำลังเห่อมาก
นั่งรอขึ้นเครื่องบินไปภูเก็ต
ผมขึ้นเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ครับ ระหว่างรอเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมารับ(ตะกี้ได้ข่าวว่าโบกรถมานี่ -..-) ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยสเก็ตช์หัวคนเล่นๆ คืออยากบอกว่าหัวของสองคนที่เห็นนี้เป็นหนุ่มชาวต่างชาติครับแล้วเค้าก็เป็นฝาแฝดด้วย ใส่เสื้อเหมือนกัน ตัดผมทรงเดียวกันอีก “หึหึ หัวพวกคุณน่าสนใจดีนะ” แล้วก็วาดๆๆ
ร้านกาแฟ True Coffee
ถึงภูเก็ตก็เที่ยวห้างเลยครับกะมาหาซื้อรองเท้าแตะ ผมนั่งรอแฟนไปทำหน้าที่ห้างจังซีลอน(ไอห้างที่มันมีเรือใหญ่ๆ แถวป่าตองนั่นแหละ) คือจู่ๆ คุณแฟนก็เดินผ่านหน้าร้านแล้วโดนโปรโมชั่นนวดหน้าราคาพิเศษเข้าให้ …มีเหรอที่สาวๆ คนไหนจะปฏิเสธได้ ผมจึงต้องมาหาที่นั่งรอซึ่งร้านกาแฟคือคำตอบแรกที่คิดได้ครับแต่ดันพลาดเลือกร้านนี้ เพราะร้านเหม็นกลิ่นอาหารมากคือในร้านเค้าทำอาหารขายด้วยอ่ะเพิ่งรู้ แต่เพราะสั่งไปแล้วจึงต้องจำทน -*-
ผ้าม่านในห้องพัก
ครับ อ่านไม่ผิดหรอก ผมพักที่โรงแรม Marina Phuket Resort แต่ดันเช้าวันนั้นมีฝนตกปรอยๆ ครั้นจะให้ออกไปตอนนี้เลยก็ไม่รู้จะไปไหนชายหาดก็เปียก ในเมืองก็ฝนตก ผมก็เลยนอนรอฝนหยุดเพื่อที่จะออกไปข้างนอกแบบตัวแห้งๆ และเมื่อนอนก็จะเห็นอะไรได้ล่ะถ้าไม่ใช่เพดานกับกำแพง ผมนอนข้างหน้าต่างเลยมองขึ้นไปเจอผ้าม่านก็เลยจับมาวาดเล่นๆ ฆ่าเวลาได้ดีทีเดียว (ชะโงกหน้าออกไปมองวิวข้างนอกก็ไม่เอานะ ขี้เกียจสุดๆ)
ขอจบการสเก็ตช์ภาพทริปภูเก็ตเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ จะเรียกว่าเป็นภาคต้นก็น่าจะเท่ดี เดี๋ยวภาคจบจะเอาสเก็ตช์ที่เหลือมาให้ชมกันอีกครับ (เย้ มีเรื่องให้ยืดไปเขียนตอนหน้าได้แล้ว)
อุปกรณ์ : ปากกาหัวสักหลาดหลากยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Sakura, Uni, Staedtler, Rotring เพราะตอนนั้นยังไม่มีหมึกกันน้ำใช้, สีน้ำ Winsor & Newton, Sakura Koi Waterbrush, สมุด Moleskine Plain Soft Cover Pocket
มันอยู่บนโต๊ะ
สวัสดีครับ ผมเป็นคนชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ ปกติถนัดวาดแต่รูปแมวน้ำ เป็ด ปลา ฯลฯ แต่มันผิด concept เวปนี้ก็เลยไม่กล้าเอามาลง เดี๋ยวโดน admin สาปให้ประมูลปากกาแล้วได้ตลอด จะไม่มีเงินกินข้าวเอา
สำหรับงาน sketch ชุดนี้ เป็นงานที่เพิ่งวาดได้ไม่นานนี้เองครับ (คืองานตอนแรกๆ มัน… อย่าให้พูดถึงเลยครับ กลัวเอามาให้ดูกันแล้วจะน้ำตาซึม … เพราะดูไม่ออกว่าคืออะไร)
ตามหัวเรื่องเลยครับ ทุกอย่างที่ผม sketch มาฝากครั้งนี้จะเป็นบรรดาของบนโต๊ะทั้งหลาย ทั้งอุปกรณ์ปรุงอาหารบนโต๊ะอาหาร และอุปกรณ์สำนักงานบนโต๊ะทำงาน
ของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่บอกวัฒนธรรมและค่านิยมของผู้จัด หรือผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีนะครับ
อย่างโต๊ะของร้านอาหารญี่ปุ่น จะออกแนวเรียบๆ มีดอกไม้ปักให้ดูเรียลลิสติกนิดหน่อย วางพร้อมกับของที่คนไทยชอบปรุง เช่น เกลือ โชยุ พริกไทย (มันมีคนเอาไปเหยาะใส่ซูชิด้วยเหรอฟระ!) แล้วก็ ฟุริคาเคะ (ผงโรยข้าว) นิดๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ มินิมัลลิสม์ แบบ แจแปนนิสต้า
ส่วนของโต๊ะทำงาน (ไม่กล้าวาดของตัวเองให้ดู เพราะมันวาดยากมาก มีของอยู่ทั่วทุกอณูของโต๊ะ ฝีมือตอนนี้วาดไปแล้วคนจะพาลนึกเอาว่าเป็นโต๊ะไหว้เจ้าหรืออะไรซักอย่าง) ก็บ่งบอกสไตล์การทำงานของคนเช่นกันนะครับ เช่น น้องโต๊ะข้างๆ ผม เป็นคนที่วันๆ หนึ่ง ต้องรับเอกสารเข้ามาเคลียร์เยอะมาก จึงต้องเอาที่ใส่แฟ้มเอกสารมาตั้งข้างๆ เอาไว้ตลอดเวลา พอเอกสารมาก็รีบเสียบๆ เข้าไป ไม่อย่างนั้นมันจะกองที่โต๊ะจนหาคีย์บอร์ดไม่เจอ (น้องเคยลางานไปสามวัน กลับมาหาโต๊ะตัวเองไม่เจอ กองกระดาษมันทับ ขาวโพลน นึกว่าหิมะตกเมืองไทย!)
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ 3 รูปนี้: ตัดเส้นโดย Copic Multi-Liner หัว 0.5 / แต่งเส้นโดย Rotring Rapiograph หัว 0.3 / รูปโต๊ะทำงานผมใช้ Platinum Preppy 03 กับหมึก Noodler’s Lexington Grey (ทั้งสองอุปกรณ์นี้สามารถดูรีวิวได้ที่ B.B.Blog ครับ) / ลงสีน้ำ Sakura Koi ครับ / กระดาษเป็นสมุด Sketch ของ Maruman ไซส์โปสการ์ด
ขอฝากผลงานไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยครัฟ
แหม คุณท๊อปครับตอนแรกบอกวาดไม่เก่ง แต่ที่เห็นนี่ฝีมือร้ายไม่เบานะครับ 😉@hackhq