ภาพสเก็ตช์สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามรอบโลกกลับมาให้ได้ชมกันอีกครั้งครับโดยฝีมือระดับศิลปินของคุณหลุยส์ ใครที่ยังไม่ได้ชมตอนก่อนขอเชิญเข้าชมได้ที่นี่นะครับ @hackhq
Tag: watercolor
บ้านโซวเฮงไถ่ บ้านจีนโบราณย่านตลาดน้อย
นึกว่าหลงเข้ามาอยู่ในหนังจีน ปัจจุบันยังคงสภาพเดิมไว้อยู่ ไม่ได้มีการบูรณะ ตัวอาคารจึงทรุดโทรมไปมาก
ปัจจุบันเปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำกับฟาร์มหมาบีเกิล
ท่องยุโรปด้วย GoogleAirline 1
อัลบั้มนี้รวมงานสเก็ตช์เมืองสำคัญต่างๆ ในยุโรป ทั้ง Venice, Rome, Prague, Dresden, Budapest, Brussels, Hallstats ซึ่งหลังๆ มานี่ชักจะวาดเยอะขึ้น เพราะเบื่อเจดีย์ๆ โบสถ์ๆแล้วฮะ 5555 แล้วเวลาได้วาดทีไร มันก็อดไม่ได้ที่จะอยากไปสัมผัสที่จริง อยากไปวาด on location ซะเหลือเกินน์
…น้ำตาไหล ทำงานเก็บเงินแปบ
สำหรับรูปที่ส่งมานี่เรียงตามเวลาที่วาดครับ อย่างรูปแรกคือช่วงแรกๆที่เริ่มวาด (ประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้ว) ไล่มาเรื่อยๆ น่าจะพอเห็นเป็นพัฒนาการ ทั้งทางเส้นสายและสไตล์การลงสีครับ
ช่วงนี้เริ่มทำงานแล้ว เวลาวาดรูปน้อยลงอย่างน่าใจหายครับ คงอีกนานกว่าจะได้ส่งรูปมาลงในเว็บ Sketchland Yard ครับ สำหรับใครอยากติดตามผลงาน ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีทั้งยุโรป เอเชีย บลาๆๆ จาก sketcher ของ GoogleAirline (5555) สามารถติดตามได้ทาง
Instagram : lllouis
FB : lllouis sketcher ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามและเว็บ Sketchland Yard สำหรับพื้นที่แสดงผลงานครับ
อุปกรณ์:
หลักๆผมจะเป็นสไตล์เส้นนำสีตามน่ะครับ คือวาดด้วยปากกาซัก 90-100% แล้วค่อยลงสีน้ำ แบบเกือบเหมือนจริง (จริงๆคือตั้งใจให้เหมือน แต่มันไม่เหมือนครับ TT) ซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีเทคนิคทางสีน้ำที่พิสดารอะไรมาก อุปกรณ์จึงเป็นอะไรง่ายๆเช่น waterbrush กับสีน้ำยี่ห้อ winsor & newton, fine ครับ
วัดโพธิ์
โดมในดวงใจ
วัดโพธิ์ หลายเวลา หลากเหตุการณ์
วัดอะไรไม่รู้มุมให้วาดเยอะชะมัดครับ ไปกี่ทียังมีมุมใหม่ๆให้วาดเรื่อยๆ
ส่วนรูปสุดท้ายร้าน vivi cafe บรรยากาศดีมาก ไปลองกันได้ครับ
พอบอกหมึกซึม…ซึมเลย
สมุดจากลูก ปากกาจากหลาน มนุดป้าละเลง
อุปกรณ์ : ปากกา Pilot Kakuno, สีน้ำ Raphaël Watercolor Travel Pan Set,
ชอบรูปภาพบรรยากาศการจิบชาทานขนมและสเก็ตช์ไปด้วยแบบนี้มากเลยครับ แสงเงาสวย ขนมดูน่าทาน ที่สำคัญปากกาน่ารักคุ้นๆ ด้วย จิบชาครั้งหน้าอย่าลืมสเก็ตช์ภาพมาให้ดูกันอีกนะครับ 😉@hackhq
สัญญา 5 ดอก
สวัสดีโซเชียลแคม วันนี้ ไม่มีอะไรมาก สัญญาว่าจะเอาดอกไม้มาฝาก สัญญา 5 ดอก
โบตั๋น1, โบตั๋น2, คาเนชั่น, ทานตะวัน และชบา จบนะ เข้าใจตรงกันนะ อะเค
อุปกรณ์ใช้หลากหลายมากมาย แต่ถ้าถามคนวาด ว่าอะไรชอบภาพที่สุด น่าจะเป็นภาพแรก เพราะเป็นภาพที่ผู้วาดใช้เวลานานที่สุด และหลักการลงสีก็ค่อยๆลงไปเรื่อยๆตามอารมณ์ การลงสีในแต่ละวัน ไม่เหมือนกันจริงๆมันมากจากความขยันนะจุดนั้นๆ แล้วเนื่องจากใช้สีเกรดอาร์ดติส จานสียังสวยเลยอะ 🙂
ข้อคิด หลังจากเปลี่ยนพู่กัน เป็นขนสัตว์จริง บอกเลย จอมยุทธ์ดีกระบี่ต้องดีกว่า แนะนำเลย มีพอคเกตแบบในรูปทานตะวัน อันเดียวอยู่
ขอบคุณครับ
ART_DEJ
สมุด
หลังจากไม่ได้ส่งรูปมาลงเป็นเวลานานมากถึงมากที่สุด 555 เซตนี้เป็นรูปในสมุดสเก็ตช์ช่วงกำลังทำวิทยานิพนธ์ครับ พอคิดงานไม่ออก นั่งรอเพื่อนๆตรวจงาน มือมันก็ซุกซนไปตามประสา ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นครับ
ทะเลกระบี่
สมุดบันทึกหน้าต่อไปนี้ผมอยากขอนำเสนอ การสเก็ตช์ภาพในการเดินทางท่องเที่ยวที่เราต้องไปเป็นหมู่คณะและมีเวลาอย่างจำกัด ซึ่งเพื่อนๆ ชาว Sketchland yard หลายคนคงชำนาญหรือคุ้นเคยกับการสเก็ตช์ในสถานการณ์ลักษณะนี้กันดีอยู่แล้ว ส่วนท่านที่ยังไม่เคยลองก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนหรือแบ่งปันกันนะครับ
เนื่องจากในวันที่ 22-24 เมษา ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปสัมมนาฯ ที่ จ. กระบี่ ซึ่งจะว่าไปแล้วตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่ภาคใต้ได้ 2 ปี ก็มีโอกาสได้ไปกระบี่มา 4-5 ครั้งแล้ว แต่การสัมมนาฯ ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะในวันที่ 23 มีโปรแกรมทัศนศึกษานั่งเรือชมหมู่เกาะระบุไว้ด้วย ผมเลยมีความหวังที่จะได้บันทึกภาพเกาะแก่งต่างๆ ของทะเลกระบี่ลงในสมุดเล่มนี้ขึ้นมาทันที เพราะนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่จะได้ลงเรือในทะเลกระบี่ครับ
22 เมษา 57 เดินทางถึงที่พักโรงแรม พีซ ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ประมาณสิบโมงกว่า จากนั้นก็เป็นการสัมมนาฯ (จนถึง 2 ทุ่มครึ่งกันเลยทีเดียว) แต่ในช่วงหลังจากพักรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ประมาณ 18.45 น. ก่อนเข้าห้องสัมมนาตอนหนึ่งทุ่ม ยังพอมีเวลาและแสงสว่างพอ ภูเขาหินปูนที่เป็นหน้าผาสูงตระหง่านฉากหลังของโรงแรม(น่าจะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้) ซึ่งผมเล็งไว้แล้วตั้งแต่มาถึง ได้ถูกบันทึกลงในหน้ากระดาษเป็นภาพแรก ด้วยลายเส้นปากกาเขี่ยๆ ตวัดขยุกขยิกแข่งกับแสงและเวลาอย่างเร่งรีบเพราะต้องเข้าสัมมนาฯ ต่อ ดังนั้นการสเก็ตช์ในสถานการณ์เช่นนี้ เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักปล่อยวาง จับเอาแต่ลักษณะสำคัญ ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป แต่ต้องคงความเป็นจริงของสถานที่ไว้ให้มากที่สุด เพราะเราคงไม่สามารถบันทึกทุกอย่างตามที่เห็นได้ครบถ้วนภายในเวลาอันรวดเร็วเหมือนกล้องถ่ายรูปครับ…ภาพแรกได้แค่ลายเส้นครับ พอได้จดจำว่าเป็นที่ไหน…ไปล่ะครับ สัมมนาฯ ต่อ..
23 เมษา 57 เก้าโมงเช้าเดินทางออกจากที่พักด้วยรถที่มารับไปลงเรือแถวบริเวณหาดนพรัตน์ธารา โชคดีครับที่เรือของคณะเราเป็นเรือที่มีชั้นดาดฟ้าให้นั่งได้ ผมจึงไม่ลังเลที่จะขึ้นไปนั่งรับลมชมวิวและแดดร้อนๆ บนนั้น(อันหลังนี่ไม่ชอบเท่าไหร่แต่เลี่ยงไม่ได้ครับ) เมื่อเรือเริ่มออกสู่ท้องทะเล ผ่านเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆ ผมก็ได้แต่กดชัตเตอร์บันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายภาพให้ได้มากที่สุด เพราะมองทางไหนก็สวยงามทั้งนั้นเลย และที่สำคัญไม่รู้จะพอมีเวลาสำหรับการสเก็ตช์รึเปล่า? ….จากนั้นเรือก็มาจอดทอดสมอที่เกาะปอดะเป็นที่แรก ทุกคนในคณะต่างก็ลงไปเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็เดินชมทัศนียภาพและถ่ายภาพประทับใจไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งผมก็เช่นกันเมือถ่ายภาพเป็นที่พอใจแล้วก็ลงไปเล่นน้ำทะเลให้หายร้อนบ้าง ไม่อย่างงั้นจะถือว่ามาไม่ถึงครับ…
หลังจากหลังจากเล่นน้ำทะเลจนเป็นที่พอใจแล้ว ผมก็กลับมานั่งรอชาวคณะคนอื่นๆบนดาดฟ้าเรือเช่นเดิม ใกล้เวลาเรือออกเดินทางต่อแล้ว คิดว่าห้านาที สิบนาที น่าจะพอมีเวลาบ้างก็เลยกางสมุดสเก็ตช์ออกมาแล้วกระซวกเลยครับ..เวลาแค่นี้กับมุมมองความสวยงามที่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เกาะแก่ง น้ำทะเล เรือ หรือผู้คนที่มานักท่องเที่ยว มันสวยไปหมด สวยจนทำให้ผมลนลาน อยากจะบันทึกทุกอย่างที่เห็นอยู่เบื้องหน้า แต่คงทำไม่ได้ ดังนั้นมันต้องกระซวก กระซวกอย่างเดียวครับ กระซวกจริงๆ ถึงจะเก็บภาพให้ได้ทันและมากที่สุด แต่เพราะช่วงเวลาอันเร่งรีบนั้นผมเลยได้ภาพลายเส้นปากกาเกาะปอดะ แค่ 2 ภาพเท่านั้นเอง คนขึ้นเรือครบแล้ว เรือกำลังจะออก….แต่ อ้าว!! ซะงั้น เรือสตาร์ทไม่ติดครับ ในขณะที่คนขับเรือพยายามสตาร์ทเครื่องเรืออยู่ ก็เลยยังพอมีเวลา เสร็จผมล่ะทีนี้เอากล่องสีน้ำออกมา บีบน้ำจากพู่กันแท้งค์ลงไป แล้วจ้วงทันที…..เลยลงสีเสร็จไปหนึ่งรูปครับทันเรือออกพอดี 555+…..แล้วพี่ที่นั่งข้างๆ ด้วยกันบนดาดฟ้าเรือขอให้สเกตช์ภาพแกดูบ้าง เลยจัดไปหนึ่งภาพ การสเก็ตช์ภาพเหมือนบนดาดฟ้าเรือขณะที่กำลังล่องไปในทะเลก็ได้ตามที่เห็นนี่แหละครับ..
จากนั้นเรือก็มาหยุดอีกทีที่ทะเลแหวกครับ ที่นี่เราได้ข้าวกล่องเป็นมื้อกลางวัน พอจัดการเรื่องอาหารเสร็จก็มีเวลาให้ชื่นชมทะเลตามอัธยาศัยของแต่ละคน ส่วนผมพอบันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายรูปจนที่พอใจแล้วเลยลงจากเรือหาร่มไม้ที่มีมุมมองเหมาะๆ สเก็ตช์ภาพอีกสักรูปครับ ภาพต่อมาที่ได้จึงเป็นภาพมุมกว้างในสมุดหน้าคู่ครับ เพราะอยากเก็บบรรยากาศของทะเลแหวกเอาไว้ให้มากที่สุด..แต่ที่สำคัญคือ มีเวลาเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก เราจักทำเยี่ยงไรได้เล่านอกจากกระซวกอีกตามเคย…ถ้าสังเกตตามภาพจะเห็นได้ว่ามีลายเส้นปากการ่างไว้เพียงไม่กี่เส้นแทบจะนับได้เลย…ผมลากเส้นไว้เพียงแค่เป็นโครงคร่าวๆ เพื่อกำหนดขอบเขตในการลงสีน้ำครับ เพราะประทับใจในสีสันของท้องฟ้า โขดหินและน้ำทะเลเหลือเกิน ภาพนี้ไม่ได้ใช้พู่กันแท้งค์นะครับแต่เป็นพู่กันมาสเตอร์อาร์ตด้ามสีเขียวธรรมดาๆ ที่พกติดย่ามมาด้วย(ไม่กล้าเอาของแพงกว่านี้มาเพราะกลัวหล่นหาย) เลยลงสีแบบเปียกบนเปียกและละเลงพื้นที่ได้กว้างขึ้น ส่วนน้ำผสมสีก็ได้จากขวดน้ำดื่มที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้อย่างเกลื่อนกราดในบริเวณร่มไม้ที่ผมนั่งนั่นแหละครับผมก็งงอยู่ว่าแล้วใครจะเป็นคนเก็บ เห็นแล้วน่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง…น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถเก็บขึ้นมาทิ้งบนฝั่งได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยขวดที่ผมตัดมาเป็นกระบอกใส่น้ำผสมสีก็เก็บขึ้นมาด้วยครับจะได้ทิ้งลงขยะ ..
หลังจากนั้นเรือก็ล่องอ้อมหมู่เกาะต่างๆ ที่เห็นได้ชัดน่าจะเป็นเกาะไก่..แต่ผมมองเหมือนไดโนเสาร์นะ หรือบางมุมก็เหมือนอูฐซะมากกว่า 555 ….แล้วก็มาหยุดให้ดำน้ำดูปะการังที่อีกด้านหนึ่งของทะเลแหวก…ตรงนี้ไม่ได้สเก็ตช์ครับ จนเรือมาหยุดที่อ่าวพระนางครับ ที่นี่คนเยอะมากผมจึงไม่ลงจากเรือ ขอนั่ง สเก็ตช์ภาพดีกว่า ที่นี่เลยได้สองภาพครับ ภาพแรกลงสี ภาพต่อมาลงแค่ลายเส้น เพราะกะไว้แล้วเวลาไม่พอลงสีแน่นอน…เวลาในการเขียนก็ไม่ต่างกับภาพที่ผ่านๆ มาเลยไม่ขอบรรยายอีกนะครับ ได้ภาพตามที่เห็น…จากนั้นเรือก็นำพาพวกเรากลับเข้าสู่ฝั่งที่หาดอ่าวนางโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบช่วงเวลาของการพักผ่อน…พรุ่งนี้ก็สัมมนาฯ ต่ออีกถึงบ่ายสามจึงจะเป็นอันเสร็จภารกิจครับ..
สรุปแล้ว วิธีสร้างภาพของผมก็คือ ต้องกล้าทำให้หน้ากระดาษขาวๆ มันเลอะด้วยเส้นปากกาก่อน ลากๆ ไปเถอะไม่ต้องกลัวผิด บรรยายสิ่งที่เห็นออกมาเป็นภาพบันทึกลงไปตามที่เราต้องการด้วยใจอิสระ แล้วหาวิธีจบมันให้ทันกับห้วงเวลาที่มีแค่นั้นเอง..